สูง 15 - 25 เมตร เปลือก หนาสีน้ำตาลอมเทา ล่อนเป็นแว่น ๆ ใบประกอบรูปขนนก เรียง สลับ ใบย่อย 11 - 17 ใบ ใบ รูปรีแกมรูปไข่ หรือเรียงเป็นรูปขอบขนานแกมรูปหอก กว้าง 1 - 4 เซนติเมตร ยาว 4 - 8 เซนติเมตร โคนใบมนกลมหรือสอบเป็นรูปลิ่มกว้าง ๆ และปลายมนทู่ และหยักเว้าเล็กน้อย ท้องใบสีจางกว่าหลังใบ ใบ รูปรีแกมรูปไข่ หรือเรียงเป็นรูปขอบขนานแกมรูปหอก กว้าง 1 - 4 เซนติเมตร ยาว 4 - 8 เซนติเมตร โคนใบมนกลมหรือสอบเป็นรูปลิ่มกว้าง ๆ และปลายมนทู่ และหยักเว้าเล็กน้อย ท้องใบสีจางกว่าหลังใบ ดอก เล็กสีขาวแกมม่วง เกิดบนช่อดอกเชิงประกอบตามปลายกิ่ง ดอกจะเกิดพร้อมกับการผลิใบใหม่ ผล เป็นฝักแบน ๆ ยาวรี รูปขอบขนาน หัวท้ายแหลม กว้าง 3 - 3.5 เซนติเมตร ยาว 8 - 17 เซนติเมตร แต่ละฝักมี 3 เมล็ด
เครดิตภาพ : ข้อมูลพรรณไม้ http://ecoforest.phsmun.go.th/?p=84
ในระยะแรก พบว่าไม้ชนิดนี้ จะมีลักษณะคดงอ และแตกกิ่งก้านมากหากปลูกกลางแจ้ง แต่จะเจริญเติบโตได้ดีมาก หากมีการบังแสง จากทางด้านข้าง และมีการได้รับแสงบ้างเฉพาะจากทางด้านบนก่อนการย้ายปลูกจำเป็นต้องมีการทำให้กล้าไม้แกร่ง โดยการลดปริมาณการให้น้ำ ลงอย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนปลูก เช่น การรดน้ำแบบวันเว้นวัน เป็นต้น ในวันที่จะนำปลูกให้ทำการรดน้ำให้ชุ่ม