เพชรชมพูพรรณไม้พวกเดียวกับหมากผู้หมากเมีย ที่มีลำต้นตรงกลมขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นสีน้ำตาลมีข้อถี่ตามลำต้นซึ่งเป็นรอยของกาบใบ ลักษณะเป็นรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบสอบเข้าหาก้านใบ ขนาดใบกว้างประมาณ2-3 นิ้วยาวประมาณ8-12 นิ้วใบอ่อนจะมีสีเขียวปนขาวและสีชมพูอ่อนเมื่อใบแก่ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวสีม่วงหรือแดงเข้มใบเป็นมันจะแตกใบรวมกันตรงส่วนยอดของลำต้นสลับเป็นวงกลม ก้านใบหรือกาบใบสีแดงเข้ม ดอกจะแตกออกตรงส่วนยอด ออกดอกเป็นช่อชูขึ้นมาดอกมีขนาดเล็กสีขาวเพชรชมพูต่างกับเพชรสายรุ้งตรงที่พื้นใบมีสีเขียวอมเทาขอบใบแต้มด้วยสีครีมและสีชมพูเข้ม ลากเป็นเส้น เส้นกลางใบมีสีเขียวอ่อน กาบใบมีสีเขียวกลิบด้วยสีชมพูเข้ม
การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายในและภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูง ขนาด 8-16 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก : แกลบผุ:ดินร่วนอัตรา 1 : 1 : 1 ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถาง1 : 2 ปี/ครั้งเพราะการขยายตัวของทรงพุ่มโตขึ้นและเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ ทดแทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป 2.การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนโบราณนิยมปลูกไว้เป็นแนวรั้วรอบบ้านหรือบริเวณสวนหน้าบ้าน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 1 ผสมดินปลูกแสง ต้องการแสงแดดรำไร หรือแสงแดดปานกลาง น้ำต้องการปริมาณน้ำมาก ควรให้น้ำ 3-5 วัน/ครั้ง ดินชอบดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ต้องการความชื้นสูง ปุ๋ยใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ 5-6 ครั้ง/ปี การขยายพันธ์ การปักชำ วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การปักชำ